ผลประโยชน์ต่อชุมชนและประเทศโดยรวมในพื้นที่สำรวจพบปิโตรเลียมมีอะไรบ้าง?

รัฐบาลมีรายได้ในรูปของค่าภาคหลวงตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 จากมูลค่าปิโตรเลียมที่ขาย และมีการจัดสรรค่าภาคหลวงปิโตรเลียมแหล่งบนบกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. และ อบจ.) ตามนโยบายกระจายอำนาจการปกครองและรายได้สู่ท้องถิ่น โดยให้ท้องถิ่นที่เป็นแหล่งทรัพยากรได้รับการจัดสรรรายได้ที่รัฐฯได้รับจากการผลิตทรัพยากรเพื่อพัฒนาและสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น โดยเริ่มมีการจัดสรรตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2539 เป็นต้นมา

ปัจจุบันค่าภาคหลวงที่จัดเก็บได้จากสัมปทานที่มีพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมบนบกอยู่ในเขตพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (1 กรกฎาคม พ.ศ.2544) จะส่งเป็นรายได้แผ่นดินร้อยละ 40 และจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร้อยละ 60 ดังนี้
  • อบต. และเทศบาลในเขตพื้นที่ผลิตปิโตรเลียม ร้อยละ 20
  • อบต. และเทศบาลอื่นที่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ผลิตปิโตรเลียม ร้อยละ 10
  • อบต. และเทศบาลที่อยู่ในจังหวัดอื่น (ทั่วประเทศ) ร้อยละ 10
  • อบจ. ในเขตพื้นที่ผลิตปิโตรเลียม ร้อยละ 20

นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2524 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันในปีพ.ศ. 2554 ผลประโยชน์ของประเทศในรูปของรายได้รัฐจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยรวมคิดเป็นมูลค่าถึง 1.08 ล้านล้านบาท จัดสรรให้ท้องถิ่น 20,708 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.9 ของรายได้รัฐทั้งหมด

สำหรับค่าภาคหลวงจากแหล่งปิโตรเลียมในทะเล ส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมดมิได้จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น